Sunday 3 June 2007

ได้อะไรจากการฝึกงานบ้าง ชีวิตการเรียนมันมีความสุข

Trainee นักศึกษาฝึกงาน
SKY EXITS FILMS PRODUCTION HOUSE เป็นบริษัทถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา ชั้นนำของเมืองไทย ต้องการรับสมัคร เด็กนักศึกษาฝึกงาน รุ่นใหม่ไฟแรง เพื่อพัฒนาเข้ามาร่วมเป็นทีมงาน ในหลายๆด้าน ดังต่อไปนี้
01. Assistant Director ผู้ช่วยผู้กำกับ เรียนทางภาพยนตร์หรือสาขาที่ใกล้เคียง ช่างเจรจา กล้าแสดงออก ชอบความท้าทาย บุคลิกดี มนุษย์สัมพันธ์เป็นเลิศ มีความมั่นใจในตัวเอง มีความสามารถด้านการเขียน พูด และอ่านทั้งภาษาไทยและอังกฤษอย่างดี มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนไม่มีโลกส่วนตัว ทำ Call Sheet เป็น
02. Casting and Acting Coach ฝ่ายจัดหานักแสดง ช่างเจรจา กล้าแสดงออก ชอบความท้าทาย บุคลิกดี มนุษย์สัมพันธ์เป็นเลิศ มีความมั่นใจในตัวเอง มีความรู้ทางด้านการแสดง สมควรเรียนสาขาที่ตรงกับด้านนี้ เพราะ Sky Exits Films Production ต้องการที่จะรับนักศึกษาฝึกงานมาเพื่อ พัฒนาเป็นทีมงานรุ่นใหม่ไฟแรง อย่างแท้จริง
03. Costume-Wardrobe แผนกเสื้อผ้านักแสดง จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะเรียนด้านนี้แล้วมาฝึกงานกับทางเรา เพราะ Sky Exits Films Production ต้องการที่จะรับนักศึกษาฝึกงานมาเพื่อ พัฒนาเป็นทีมงานรุ่นใหม่ไฟแรง อย่างแท้จริง
04. Art Director and Assist Art Director เรียนสาขาเกี่ยวข้องกับงานศิลปกรรม ใจรักงานศิลปะ สื่อสารเป็นภาษาศิลปะได้เข้าใจ ใช้ Photoshop, illustrator

05. Film Producer and Assistant Film Producer เรียนทางภาพยนตร์หรือสาขาที่ใกล้เคียง
06. Production Coordinator ประสานงานกองถ่าย เรียนทางภาพยนตร์หรือสาขาที่ใกล้เคียง
07. Location Manager and Location Scout Survey ฝ่ายหาโลเคชั่น สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ใช้กล้องภาพนิ่งได้ดี
08. Props Master ฝ่ายหา อุปกรณ์ประกอบฉาก หรือของเข้าฉาก มีความอดทน

09. Cameraman and Assistant Cameraman เรียนทางภาพยนตร์หรือสาขาที่ใกล้เคียง มีความอดทน สามารถทำงานภายใต้สภาวะกดดันได้ดี

10. Film Editor and Assist Film Editor [AVID] เรียนทางภาพยนตร์หรือสาขาที่ใกล้เคียงสามารถใช้โปรแกรม Adobe Premiere และ Photoshop ได้อย่างชำนาญ มีความต้องการที่จะเป็น คนตัดต่อที่ดี
11. Special EFX and Model FX สเปเชี่ยล เอฟเฟ็ค ภาพยนตร์ เรียน ทางวิศวะ คอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า หรือเครื่องกล หรือไม่ก็ เรียนทางศิลปกรรม จิตกรรม รักในงานพิสดาร มีความอดทน สามารถทำงานภายใต้สภาวะกดดันได้ดี เข้าใจภาพยนตร์ เป็นอย่างดี รักหนัง มีความละเอียดอ่อน เข้าใจในระบบการทำงานทางด้าน EFX เป็นอย่างดี มีความสามารถทางด้าน Computer

สนใจส่งรายละเอียด การศึกษา งานกิจกรรม สิ่งที่คุณสนใจ โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความสามารถพิเศษ และส่งประวัติส่วนตัวและประวัติการศึกษา [Super Resume]
ของท่านมาด้วย มากที่สุด เท่าที่ทางเราจะสามารถรู้จักตัวของคุณได้ อย่างรวดเร็วมาที่
trainee.skyexits@gmail.com รับสมัครทาง E Mail เท่านั้น

รายละเอียดและผลงานของทางบริษัทที่
Blog: http://skyexits-showreel.blogspot.com/
Home Page http://www.skyexits.com/
Blog: http://skyexits.blogspot.com/


รายละเอียดการฝึกงานที่
Blog: http://jrsky.blogspot.com/
บริษัทอยู่แถว ลาดพร้าว 88 บางกะปิ กทม ติดต่อคุณปุ้ย
Tel 02-9336470-9
MAP ของบริษัทสกายเอ็กซิทส์ จำกัด


ตอนนี้เครียดมากๆๆๆ

หาที่ฝึกงาน

จะต้องทำงานแล้ว

ไม่รู้จะทำยังงัยดี

ไม่รู้แม่งจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี

รู้แต่ว่ามันคือก้าวต่อไปของชีวิต

แล้วต้องก้าวหั้ยมันดีด้วย

มันเริ่มขึ้นแล้วกับอีกช่วงชีวิต

ที่ต้องผ่านเข้ามาสักที

บอกจิงๆเลยว่ากลัวมาก

มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

รู้เลยว่าต้องโตขึ้นได้แล้ว

จะเปนเด็กไม่ได้อีก

จะไปเที่ยวเล่นแม่งก้อเริ่มไม่สนุก

เครียดว่าจะมีที่ทำงานป่าววะ

ทุกอย่างแม่งต้องเริ่มที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง

ไม่มีใครมาป้อนหั้ยอีกต่อไป

เกลียดจิงๆที่ต้องโตเปนผู้ใหญ่แล้ว

ตอนเด็กๆอยากโตเปนผู้ใหญ่

อยากทำงานมีเงินเปนของตัวเอง

จะได้ไม่ต้องขอใคร

แต่ตอนนี้

ปะป๊าจ๋า

ขอตังหน่อย

หนูอยากเป็นเด็ก

ฮุย...เล่....ฮุย..เจ้าทุยถึก

เราเริ่มต้นกัแต่เช้า..โตปลุกตอน 7 โมงแต่กว่าจะอาบน้ำกันได้ก็ 8 โมงครึ่ง
"ไร้สาระกันจริงๆ"
ออกจากบ้านพี่รองตอน 10 โมงกว่า โดยมีพี่สมรักษ์อุ๊ย ม่ายช๊าย..มีพี่โหน่ง..คอยอำนวยความสะดวกให้
ถึงแล้ว"โรจน"แต่เค้าบอกว่าเด๋วติดต่อกลับนะคะ...ป่านนี้ก็ยังเงียบ..
ไม่เอาแล้วไป"มาบตาพุต"กานดีก่า
ถึงแล้วๆๆๆ
โรงงานเยอะโคตรๆๆเราก็ตระเวนไปซะทุกที่
แต่ก็ เฟลว....แป๋วซะทุกทีเลย
ชีวิตมันเศร้า..เป็นเรื่องน้ำเน่า..ต้องกินเหล้าแก้กระหาย...
เที่ยงแล้ว ยังไม่ได้เรื่องเลย กลับบ้านดีก่า
แต่รุ่นพี่ EE ใจดีทุกคน ก็ติดต่อเรื่องฝึกงานให้น้อง...อุ่นใจ(นิดนึง)
จะสู้ๆด้วยตัวเองคับ เย้ๆๆ
กลับมาถึงบ้านถ่ายรูปด้วยความผิดหวังอย่างแรง
ตอนค่ำไปตลาดเดินเล่นๆๆ
ตอนดึกๆ"น้าคม"มาหา คิดถึงโคตรๆดีใจจัง
นอนเกาหลังให้โตจนหลับไปทั้งคู่
ZzzZZZzzZZzz

เรื่องการจบทั้ง มศว และรามในเวลาเดียวกัน พูดแล้วไม่ได้หาว่าอกตัญญูนะ เรื่องของเรื่องคือ พ่อแม่ และอาม่าของเราเข็น เคี่ยว และเคี่ยวเข็ญมากให้ไปทำงาน หาที่ฝึกงาน แต่เข้าใจกันไหมว่าเรียน 2 ที่เนี่ย ทั้งปีไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว สอบตลอดเวลา ...

เอาไงล่ะคะ คุณนาย
หาที่ฝึกงาน
- ทีวีบูีพา ส่งประวัติไปแล้ว ช่วงรอสอบข้อเขียน
- ไอทีวี ถ้าเค้ารับเด็ก ไอทีวียังรีพอตเตอร์ ยกเว้นสามทีมชนะเลิศ ก็คงดีเนอะ ตอนนี้ก้เลยลองให้ต่ายโทรถามพี่ที่ไปทีวีด฿ก่อนว่า ถ้าชมเชยล่ะ เค้ารับเข้าไปฝึกในฝ่ายข่าวป่ะ
- เนชั่น รายการสารคดีของพี่อ้อย แต่ว่ารายการนี้เราไม่เคยติดจามเลย ต้องหาข้อมูลซะแล้วว่าเป็นไง
สุดท้าย.....ไทยเดย์ พี่วิลลี่แนะนำมาว่าให้ไปทำรายการสารคดีที่นี่ กะพี่แป้ง

เศร้าจังเลยอ่ะ แต่ที่แน่ๆๆคงเอา ทีวี ไว้ก่อนแหละ งานหนังสือพิมพืพอแล้ว ไม่ชอบอ่ะ
ใกล้ธันวาคมแย้วววว
โหยหาที่พึ่งพิง จริงๆจังๆแล้วแหละ

ไหนจะต้องสู้รบปรบมือกับเพื่อนๆอีกอ่ะ
ไหนจะต้องผ่านอาจารย์อีก
พ่อใหญ่โต้งเด้อออ ทิ้งหนูอ่า แง๊ๆๆๆ

เอาเหอะ ยังไง
สิ้นเดือนนี้ก็จะไปพักผ่อนที่งานราชพฤก...ระหว่างเพที่ยวก็อดคิดเรื่องอนาคตไม่ได้หร้อกกก

เพื่อนฝูงทุกคน เอาใจช่วยน๊าาาา หาที่ที่เราอยากทำ และหางานที่เหมาะกับเรา

ช่วงนี้พี่บูมติดต่อไม่ได้เลย ช่วงไปรับรางวัลที่ไปทีวี ก็ดีดีอยู่นี่นา
อยากเบื่อบ้างจัง
เบื่อดีกว่า

เกรดเหลืออีก 2 วิชา จะเป็นไงน๊าาา
ภาวนา สาธุๆๆๆๆ

หาที่ฝึกงาน
เฮือก!! หาที่ฝึกงานไม่ได้ มาอัพสเปซดีก่า เซ็งๆ
ไม่รุจะไปฝึกไหนดี ไปฝึกร้านคอม เราก็ไม่เก่งคอม ไปไหนดีหว่า

ใกล้พอนึกถึงเรื่องฝึกงานก็รู้สึกเหมือนเราโตแล้วว ใกล้จะจบแล้ว ทำงายดี
ไม่อยากจบ อิอิ อยากใช้ชีวิตแบบมหาลัยไปอีกซักพัก

ขอโม้นิดนึง ภาพข้างบน ผมทำเองหมดเรยนา ภูมิใจเสนอ เปงผลงานที่นานๆครั้ง
จะได้ทำ(และทำเสร็จสมบูรณ์ด้วย) ปกติจะทำค้างๆคาๆ แล้วก็ไม่ได้ทำต่อ อิอิ

แค่ความรู้สึก

สวัสดีอีกครั้งสำหรับคนที่ผ่านแวะมา ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มา up blog เลย ทำให้ blog แห่งนี้ร้างไปพอสมควรนับตั้งแต่ช่วงวันส่งท้ายปีเก่า

ก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างๆ เลยเยอะแยะ แล้วยังมีภาระกิจสำคัญๆต่างๆอีกมากมาย เช่น หาที่ฝึกงาน เตรียมงานบายเนียร์ etc. และยังมีเรื่องนู้นเรื่องนี้อีกพอสมควร

(ละไว้ในฐานที่เข้าใจน่ะ) ซึ่งทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้กับตัวเองสักเท่าไหร่ เวลากลับบ้านไปยังรู้สึกเหมือนไมได้กลับบ้านเลย เพราะจะอยู่บ้านน้อยลง

คิดถึงบ้านน่ะ แต่ไม่มีเวลาเหมือนแต่ก่อนจริงๆ อยากอยู่กับบ้านให้มากกว่านี้ ไปไหนมาไหนกับพ่อกับแม่ และน้องๆ (ไม่พูดถึงเดี่ยวมันจะน้อยใจเอา สำหรับ

น้องๆน่ะ) กับเพื่อนเองก็เหอะ ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกันเลย อยากดูหนัง อยากร้องเกะ อยากกิน MK. บล้าๆๆๆๆ อยากไปหมดเลย เหอๆ ปี3 แล้วงานมันก็

ยุ่งแบบนี้แหล่ะ ได้ข่าวว่าอีก ประมาณ 10 วันได้ก็จะสอบอีกแล้วเร็วกันจริงๆชีวิต ไม่ต้องรีบเดินมากก็ได้น่ะครับคุณเวลา เพราะผมยังอยากจะเก็บบรรยากาศ

ความรู้สึกต่างๆอีกมากมาย ณ ช่วงเวลานี้เอาไว้ให้มากกว่านี้ก่อน จริงๆมีหลายเรื่องที่อยากจะอัพขึ้น space มาบ่นให้ฟังมาเล่าให้ฟัง แต่คงไม่ใช่วันนี้

เพราะถ้าเขียนที่จะเขียนให้หมดคงกินเวลาหลายชั่วโมง วันนี้ก็ฝากไว้ก่อนประมาณนี้ก่อนแล้วกัน

ปล. จะสอบแล้วตั้งใจอ่านหนังสือน่ะ ขยันๆ ความสำเร็จมันไม่หนีเราไปไหนหรอก

THE GOLD OF THE YEAR
THE GOLD OF THE YEAR แปลได้ตรง ๆ ก็คือปีทองนั่นเอง เฮ้อ ช่างสบายจริง ๆ เรา

ปีจอสำหรับปีจอ เมื่อลงท้ายปีก็มีแต่สิ่งดี ๆ จบลงอย่างสวยงาม

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่ได้มาอย่างฟลุ๊ค ๆ ทำที่เอแบคมาตั้งแต่ 3 กรกฎาคม ตอนนี้เข้าสู่เดือนที่ 6 แล้ว อ่านะ (แต่ไหงยังไม่ผ่านโปรหว่า ) ขอโทษนะ โปรเอแบคปีนึงเชียวนะครับพี่ ๆ แต่ได้งาน มันก็ยังน่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีใช่ไหม


เรื่องการจบทั้ง มศว และรามในเวลาเดียวกัน พูดแล้วไม่ได้หาว่าอกตัญญูนะ เรื่องของเรื่องคือ พ่อแม่ และอาม่าของเราเข็น เคี่ยว และเคี่ยวเข็ญมากให้ไปทำงาน หาที่ฝึกงาน แต่เข้าใจกันไหมว่าเรียน 2 ที่เนี่ย ทั้งปีไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว สอบตลอดเวลา เค้าไม่เคยเข้าใจ เคยมีทีนึงที่ต้องตัดสินใจระหว่างลุยสมัครงานกับเลือกอ่านสอบราม เราทำให้ทุกคนผิดหวังในตอนนั้นที่บอกว่า จะขออยู่บ้านอ่านหนังสือสอบ เราโดนว่า เหน็บแนมทุกวัน จนมีต้องทะเลาะกะที่บ้านหลายครั้งหลายครา แต่เราเชื่อมั่นในตัวเองมาก ว่าเราเลือกทางที่ถูกแล้ว

และวันนี้ ผลของการรักตัวเอง เราเชื่อแล้วล่ะ ว่าไม่มีใครรู้ดีที่สุดมากกว่าตัวเรา การเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเรานั้นแม้จะต้องขัดแย้งกับใครในตอนแรกก็ตาม แต่ในที่สุด เค้าจะเข้าใจ และยินดีไปในความสำเร็จกับเรา... ที่เราบอกเสมอน่ะถูกต้องแล้ว ว่าคนเราควรรักตัวเองก่อนรักใคร


แถมตอนนี้ อ่านดวงปี 2550 โอ้โหเฮะ เยี่ยมมาก ราศีพิจิกปีหน้าจะทำอะไร ทำไปเลย โอ้..... เรามีวางแผนอะไรบางอย่างไว้แล้วล่ะ ไม่รู้จะทำดีป่าว แต่ก็ตรงใจดี ที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นอีกครั้ง


ขอให้ทุกคนประสบแต่ความสำเร็จ เที่ยวปีใหม่อย่างปลอดภัยละกัน ลัคกี้


สัปดาห์ที่ห้า ทำงานได้ครบ 1 เดือนแล้ว
จันทร์ เช็คยา เช้า-บ่าย ตอนเย็นเก็บชั่วโมงพาร์ทไทม์ครั้งสุดท้ายที่ SM ก่อนเริ่มทำงานจริงอังคาร จ่ายยา เช้า ตอนบ่ายมาดูงานห้องยาผู้ป่วยใน เตรียมฝึกงานเพื่อขึ้นเวรต่อพุธ เช็คยา เช้า-บ่าย ตอนเย็นเฝ้าร้านยาต่อจนสามทุ่ม แล้วก็รับเงินค่าเฝ้าร้านยาเดือนแรกพฤหัสบดี วันนี้หยุดกะว่าจะไปเล่นน้ำที่สัตหีบ ด้วยความที่ไปเย็นไปหน่อยหาดเตยงามก็เลยปิดแล้ว (เคยมาตอนห้าโมงเย็นยังไม่ปิดเลย) สุดท้ายเลยไปนั่งกินอาหารริมทะเลที่บางเสร่แทน อุตส่าห์ขับรถไปตั้งไกล สุดท้ายก็มาเที่ยวใกล้ๆ จนได้ (ครั้งหน้าว่าจะขับรถไปเสม็ดเลย)ศุกร์ เช็คยา เช้า-บ่าย แล้วก็ได้รับเงินเดือน เดือนแรกแล้วเสาร์ ทำพาร์ทไทม์แบบได้เงินวันแรก ขึ้นเวรรวดเดียว 12 ชั่วโมง กลางวันก็เรื่อยๆ คนไข้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ตอนเย็นก่อนเลิกงานไม่กี่ชั่วโมง ดันมีอุบัติเหตุรถทัวร์ชาวจีน ชนรถกระบะ คนเจ็บเกือบ 30 คน เช็คยากันมันเลย แต่ยังดีไม่ต้องจ่ายยาเอง เพราะล่ามแปลที่ผมต้องอธิบายยาให้ไม่ไหว เลยขอเอาไปให้คนไข้เองอาทิตย์ ทำพาร์ทไทม์วันที่สอง วันนี้คนไข้เยอะตลอดทั้งวันเลย (ทำไมตอนฝึกงานเก็บชั่วโมงไม่เคยเจอคนไข้เยอะเลย พอทำจริงๆ คนไข้มาเพียบเลย) น้องฟุลไทม์ชอบใจ เพราะจะได้โบนัสเยอะ ส่วนผมเฉยๆ และเหนื่อย เพราะพาร์ทไทม์ ไม่ได้โบนัสด้วยซะหน่อย
ช่วงนี้ทำงานสองที่เหมือนเป็นคนสองมาตรฐานเลยแฮะจ่ายยา:ที่ BL พูดเร็วน้ำเสียงปกติจนถึงดัง เพราะต้องแข่งกับเสียงรอบข้าง ภาษาต่างชาติที่ใช้มีภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย (พูดก็ไม่ได้ ล่ามก็ไม่มี อาศัยชี้แผ่นพับภาษารัสเซียที่พี่ทำไว้)ที่ SM พูดเสียงเบา จนถึงปกติ เพราะที่นั่นค่อนข้างเงียบ พูดดังมากเดี๋ยวคนรอบข้างจะตกใจ ภาษาต่างชาติที่ใช้มีภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น (ได้แค่สวัสดี แพ้ยามั้ย ขอบคุณครับ ที่เหลือก็ใช้ภาษาอังกฤษแทน หรือไม่ก็เรียกล่าม)เช็คจำนวนยา:ที่ BL ยานับเม็ด จะเช็คจำนวนแบบคร่าวๆ ใช้สายตากะเอา ยกเว้นยาปฏิชีวนะที่จะนับใหม่่เลย เพราะถ้านับใหม่หมดทุกตัว มีหวังช้าจนคนไข้ที่รอยา เอาระเบิดมาขว้างใส่ห้องยาแน่ที่ SM ยานับเม็ด จะนับใหม่หมดทุกตัว เพราะที่นั่นราคายาแพงใช่เล่น ถ้ายาขาดเป็นเรื่องแน่เมื่อคนไข้มาติดต่อเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับห้องยา :ที่ BL บอกที่ที่ถูกต้องให้คนไข้ไปติดต่อที่ SM ติดต่อให้คนไข้หมดคุยกับแพทย์:ที่ BL เรียกหมอ แต่ที่ SM ต้องเรียกอาจารย์ไว้ก่อนเพราะส่วนใหญ่เป็น staff มาออกตรวจ
ปล. วันนี้พึ่งรู้มาว่าที่ศิริราช เช็คยาแบบ independent triple check (เช็คยาสามครั้ง โดยเภสัชสามคน) ถ้าโรงพยาบาลผมทำบ้าง คงต้องจ้างเภสัชเพิ่มอีกหลายคนแน่เลย

?ฝึกงาน?
ไปฝึกงานที่ บจก . ซีพี มาว่ะ ฝึกงานเสร็จได้ของขวัญเล็กๆน้อยๆติดไม่ติดมือกลับมา
ตอนแรกที่ไปฝึกก้องงๆอยู่เกี่ยวก่ะการใช้โปรแกรมบัญชีของบริษัททำให้
เรารู้สึกว่าที่เราเรียนมามานลืมเลือนหายไปไหนหมดเร้ว
ก้อกัวจะเสียชื่อสถาบันไง555+
การทำงานด้านนี้เรารู้สึกว่ามานไม่เหมาะกับเราเอาเสียเรยยยย
เราชอบการทำงานที่ไม่หยุดนิ่งแต่สายที่เราเรียนมานเหมือนกับเราหยุดนิ่งอยู่กับที่ก็คือ
เข้างาน 8.30 -18.00 เราต้องผจญกับรถติดความน่าเบื่อของการทำงานในสำนักงาน
แม้ขนาดของมันจะกว้างใหญ่แต่เรากลับรู้สึกว่าเราอยู่ในโลกแคบๆนานกว่าค่อนวันไปเร้ว
เราชอบการทำงานที่ได้พบปะผู้คนอ่ะงานนั่งโต๊ะมานช่างไม่เหมาะกะเราเสียนี่กระไร
มานน่าเบื่อมากกับการทำงานแบบพวกหุ่นยนต์ชาตแบตเตอรี่แบบว่านั่งนิ่งๆๆๆๆๆทั้งวันอ่ะ
แต่ทำไงได้ก้อเราเรียนมาเร้วนิ
สมัยเรียนเราไม่ค่อยรู้ความต้องก่ารของตัวเองเท่าไรว่าเราต้องการเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น
จนกระทั่งเรียนจะจบเรายังไม่รู้ว่าเราอยากเป็นอะไร เราเรยเลือกเรียนอะไรก็ได้ที่หางานง่ายๆ
เพราะเราไม่ชอบการแข่งขันเอาซะเรยเพราะเรามักไม่ไช่ผู้ชนะอ่ะดิ๊
ข้อดีของการฝึกงานมันทำไห้เราได้เห็นว่าหลังจากจบการศึกษาเร้ว
ชีวิตเราจะดำเนินต่อไปอย่างไร???????????


ในที่สุดก็เคลียร์หนี้สินทั้งหมดจนตังค์เกือบหมดและเข้ามาอยู่ในรั้วโรงเรียนพระคริสต์ธรรมกรุงเทพฯ หอพักที่นี่ก็สบายๆไม่แออัดมาก ห้องน้ำตั้งหลายห้อง ผมเอาของเข้ามาเยอะมากๆ ขณะที่น้องอีกคนเอากระเป๋ามาสองใบ นี่ขนาดพยายามแจกจ่ายสิ่งของให้คนอื่นตั้งเยอะนะเนี่ยยังไม่วายเหลือของอีกเพียบเลย บรรยากาศที่นี่ก็ดีมากๆ น้องป.ตรีก็ดูน่ารักทุกคน มีอัธยาศัยดี รักพระเจ้า ถ่อมใจ ป.โท ก็ออกฮาๆแต่ก็ให้คำปรึกษาดีมาก คิดว่าเทอมแรกคงจะสนุกมากแน่ๆ ในช่วงนี้ยังไม่มีคริสตจักรจะฝึกงาน คาดว่าคงจะได้ในเร็วๆนี้ล่ะนะ


ชีวิตของเด็กมหาลัยปี 4 คือการเตรียมตัวไปฝึกงาน ไปทำงานแต่หลายๆ ครั้ง ก็คิดแล้วเครียดอ่าาาาาา นี้ตูจะออกไปทำงานแล้วเหรอเนี่ย ยังอยากเรียนอยู่เลย ต้องไปผจญอะไรบ้างเนี่ย(ตะกี้ฟูมฟายไปหน่อย)มันก็คงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ก็คิดไปก่อนว่าเราฝึกงานหนักมากกกๆ เวลาฝึกจริงจะได้ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด จะได้มีกำลังใจไว้ก่อนนี้ก็เตรียมร่อนใบสมัครฝึกงานที่ Show no limit พี่หนุ่ยก็ขู่ๆ ว่างานหนัก แต่ก็แหมเรียนทางโทรทัศน์มา แล้วชอบคอมฯ เป็นชีวิตจิตใจ ก็เลยอยากฝึกงานบริษัทแบบนี้ เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องสู้ล่ะว้าแต่ก่อนอื่น ขอทำความเข้าใจวิธีการฝึกงาน และให้บริษัทเค้ารับก่อนเตอะ!วันนี้ขอบ่นๆ แค่นี้ก่อน เตรียมเขียนบทความต่อดีกว่า ติดตามบทความคอมฯ ที่ผมเขียนได้ในนิตยสาร PCtoday นะครับ
เขียนโดย Eka-X ที่ 2:45 ก่อนเที่ยง

ชีวิตหลังจากเลิกฝึกงานแล้วมันสบายแบบสุดๆจริงๆ ม่ายได้ไปทำงาน มันก็เบื่อๆ เหงาๆเซ็งๆนะเนี่ย เลิกฝึกงานวันสุดท้ายวันที่26 พ.ค.ตอนเช้าพวกเพื่อนเด็กจุฬากะลาดกระบังก็จะเลี้ยง แต่พักกลางวัน เรากับนายบอยก็ไปกินข้าวกับพี่ฝน(เป็นพี่เลี้ยงที่ฝึกงานที่ใจดีมาก)เจ๊วัน และก้อลุงจันดี อิ่มแบบสาดดดดดดดตกเย็นก้อพี่เคไปเลี้ยงที่ร้านอาหารป่า นั่งกินกับผู้จัดการ แบบชิวๆ มาก ประทับใจกับพี่ ๆ ที่ทำงานทุกคนเลย ฝึกงานแบบไม่กดดันอะไร พอวันเสาร์ก็มีนัดไปเที่ยวกันอีกก็พี่บอย(พี่ชายเราเองเนี่ย) ชวนไป RCAก้อเลยจัดไป ไปกันเยอะมาก พี่บอย พี่ออฟ กลุ่มเพื่อนๆอุ้ม ปุ้ย อู โห กินแบบว่ากลับมาแบบ มึนๆงงๆ พอวันอาทิตย์ก็ไปเมืองทอง เดินทางไกลมากมาก ไปหาพี่บอยที่ร้านแล้วก็พี่เบนซ์ เจอกลุ่มเพื่อนๆที่มาดูงานก็สังสรรค์กันไป ปุ้ยก็ตรงดิ่งมาจากเอกมัยเลย สุดๆ วันต่อมาก็เลยไปที่ 23BAR นั่งเล่นแบบธรรมดาก็สนุกสนานดี สองวันติดเลย กลับมาที่บางมด มะวานนี้เอง ก็เตรียมย้ายของเข้าห้องพัก ก้อเลยไปเที่ยวสะพานพุทธไปแบบอาการมึนๆ แฮงค์สุดๆๆ ไปกัน5คน กับพีท อู น้องเอ๊ก ปุ้ย กลับมาก้อหลับเป็นตายเช้านี้ตื่นมาก้อนั่งดูหนัง เรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ก้อวันนี้ว่าจะกลับห้องเนี่ย ยังไม่ถึงห้องเลย รอปุ้ยกลับมาจะดูบอลม๊างเนี่ย เออ เอาเป็นว่าวันนี้ใช้ชีวิตแบบสบายสุดดดดดดดดดดด(เอาไงกับสัมนาดีหว่าเนี่ยยยยยยยยย)

วันนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว…
เราตื่นสายๆ มาทำงานท่ามกลางสายฝนที่โปรยมาต้อนรับเรา-ขอบใจมาก
ที่ทำงานของเราอยู่สูงมากกกกก อากาศเลยเย็นเยือกอย่างที่ถ้าไม่ใส่เสื้อแจ็คเก็ต หรือเสื้อกันหนาว คนเลือดน้อยอย่างเราจะทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากนั่งสั่น แถมบวกกับอาการเกร็งประสาทจากการที่ได้เจอผู้คนระดับผู้บริหารขึ้นไป ทำให้การทำงานในครั้งนั้นกดดันไม่น้อย
ก่อนที่จะได้เข้ามาเป็น ‘คนในสนาม’ เราว่างงานอยู่ราว 4 เดือน ไม่ได้โดนไล่ออกแต่บอกตัวเองว่าออกมาเถอะถ้ารู้ตัวว่ามันไม่ใช่ โชคดีที่เจ้านายเข้าใจ อนุญาตให้เราออกมาแต่โดยดี แถมตอนที่เราไม่มีงาน ไม่มีเงินก็ยังโทรมาตามเราไปรับจ๊อบบ่อยๆ ด้วย
เราใช้ชีวิตแบบชิวๆ ได้สักเดือนสองเดือนก็เริ่มรู้สึกหนักใจ ตอนแรกว่าจะไม่หางานใหม่ อยากจะพัก อยากจะอยู่นิ่ง เพื่อถามตัวเองอย่างจริงจังว่า “จะทำยังไงต่อไป?” แต่ด้วยความที่ไม่มีเกลือไปแลกข้าว ไม่มีผักไปแลกไข่ เราเลยต้องออกหางาน เพื่อจะได้เงินมายังชีพ และในระหว่างที่วุ่นวาย สับสน ก็มีคนๆ นึงโทรมาชวนไปทำงานด้วย เราตอบอย่างไม่ลังเลสักนิดว่า “โอเช ขอบคุณมาก”
แม้จะตอบออกไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย แต่เรารู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่เพราะคว้าเอาไว้อย่างเสียไม่ได้ แต่เพราะงานนั้นมันน่าสนใจ มันท้าทาย เราอยากลองทำ…เราตื่นเต้นเอามากๆ แต่ก็เต็มที่และตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง เคยมีอยู่ช่วงนึงที่เรากลายเป็นคนบ้างานไปเลย อยากทำงานตลอดเวลา สนุกที่จะเห็นการเติบโตของมัน เสาร์-อาทิตย์ถ้าอยู่บ้านแล้วไม่ได้ทำอะไร เราก็นั่งรถเมล์เข้ามาที่ออฟฟิศเล่นๆ เหนื่อยกายไม่ว่าแต่ขอให้งานออกมาเป็นอย่างดีก็พอใจแล้ว
จากที่บริษัทของเราไม่มีแม้กระทั่งพื้นที่ของตัวเอง
จากจุดเริ่มต้นที่มีคนทำงานแค่ 4-5 คน
จากขอบเขตงานที่ยังไม่มากมาย
ทุกวันนี้บริษัทของเรามีคนรู้จักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มีพนักงานเยอะขึ้น มีน้องเข้ามาฝึกงาน มีคนอยากเข้ามาทำงาน
หลายคนเข้ามาแล้วออกไป…แต่เราก็ยังอยู่
ด้วยความรู้สึกรัก ผูกพันธ์ และห่วงใย
แต่อนาคตมันเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน, เรายังไม่รู้ว่าปีหน้าจะครบรอบ 3 ปีของเราที่ได้ทำงานที่สนามหลวงหรือเปล่า รู้แต่ว่าถ้าเราจะจากไป มันก็คงจะเหมือนๆ กับที่ๆ เราเคยจากมา เราจะไปอย่างดี ไปอย่างคนที่ต้องการเติบโต ไปอย่างคนที่ยังรักกันแต่มีความจำเป็นต้องจาก…
แต่ตอนนี้ยังทำงานอยู่เล้ย…งานเยอะจริง จริ๊ง

นัดกะพี่คุณญิ๋งไว้ที่ GMM จะไปสตูดิโอ PoP [V] ราม 30
แต่ต้องนัดที่ GMM เพราะอิมู๋ไปมะถูก!!
อิมู๋กะพี่คุณญิ๋ง Give Me Five เพราะวันนี้แต่งตัวไฮโซเหมือนกัน!!
ชั้น 38 ไปล่ำลาพี่หวิน ฝึกงานวันสุดท้าย บ๊ะบายน๊าค๊า ต้องคิดถึงพี่หวินแน่ๆ
ชั้น 38 อีกเช่นกัน ที่พี่คุณญิ๋งไปหม้อพี่เจไดเหมือนเคย.. เหอๆ
พี่เจไดผอมลงมากมาย..เพราะไปผ่าพันคุดมา แต่ก้อยังขยันมาทำงานอีก
รู้ปะว่าพี่คุณญิ๋งเป็นห่วงนะเนี่ย!! อิอิ พี่คุณญิ๋งจะถีบ เฮ้ย! จะจีบพี่เจไดนับจากวันนี้ จะไม่กัดพี่เจไดแระ
แต่วันนี้พี่เจไดน่ารักจิงๆ อิมู๋กะพี่คุณญิ๋ง Give Me Five เป็นอันว่าใจตรงกัน
ออกจาก GMM ประมาณบ่าย 3 ก่าๆ วันนี้พกสมาชิกใหม่ "น้องปลา" แฟนคลับชินมาด้วย
แต่เอ๊ะ!! นี่เราจะไปมะลิกันนะ มะช่ายชินซักหน่อย!! แต่ก้อช่างเหอะ น้องปลาบอกว่ามะลินู๋ก้อไหว.

ไม่ได้อัพบล้อกไปหลายวันครับ ก็เพราะเรื่องงานด้วยครับ ที่เรียกได้ว่า ประดังประเดเข้ามาครับ ทั้งงานปรกติที่มีอยู่ ยังปิดไม่ได้ งานใหม่ที่แวะเวียนเข้ามาทั้งงานในและงานนอกครับ ยังไม่รวมกับที่เพื่อนร่วมงานลาบวชอีก 1คน (อนุโมทนา ครับผม ไม่ได้ไปงาน ต้องเฝ้าเว็บ เดี๋ยวหาย) และน้องฝึกงานก็จบพอดี เห้อออออ
และที่สำคัญที่สุด กับชีวิตการทดลอง Ubuntu ผมครับ หุหุ งานนี้ ได้ลง ubuntu ใหม่อีกรอบแล้ว เอาเป็นว่าขอแชร์ปัญหาดีกว่าครับ
หลังจากที่ นั่งก้มหน้าก้มตา config ต่างๆ กันอย่างบ้าคลั่งครับเพื่อให้มันทำงานได้เต็มที่ครับ ซึ่งจริงๆแล้ว ลงไปปุ๊บ มันก็ทำงานได้ทุกอย่างครับ แค่ลง gtfp เพิ่มมาผมก็พอทำงานได้แล้วครับ แต่ด้วยความที่อยากเล่นอะไรมากกว่านั้นครับ โดยเฉพาะไอ้ Beryl ด้วยแล้ว เลย config กันเยอะมากกก compile kernal ใหม่อีก แต่ก็ยังรันไม่ได้อยู่ดี ยำมันไปยำมันมาก็ x windows เจ๊ง เข้า text mode ไปลบพวก start ต่างๆ ที่เข้าไปยำไว้ ก็ยังไม่รอด เลยลงใหม่ดีกว่า
ซึ่งก็ต้องบอกครับว่า ที่ผ่านไปนั้น เป็นปัญหาความต้องการส่วนตัวไม่เกี่ยวกับระบบว่ามันสร้างปัญหาในการทำงานเท่าไหร่ครับ ตั้งแต่ การลง Ubuntu 64 bit (ทั้งๆที่รู้ว่าหลายโปรแกรมไม่มีใช้ เช่น Flash player 64 bit) ฝืนลง beryl เพื่อความเท่ห์ ทั้งที่คนเล่น ubuntu เกือบทั้งโลกบอกว่า มันมีปัญหานะ ระหว่าง beryl+ ati driver+64 bit เนี่ย แม้ว่าหลายคนเล่นได้ แต่อีกหลายคนลงแล้วเล่นไม่ได้ เจ๊งกาโบ้ง (แต่ผมก็ยังเล่น 555+) แต่ไอ้ที่เป็นปัญหาข้างนอกละครับ สำหรับในการทำงาน ซึ่งจริงแล้วตรงนี้ก็สำคัญครับ และมีหลายข้อใหญ่ๆ ด้วย
1. ผมสื่อสารงานกะใครไม่ค่อยรู้เรื่องครับ เพราะว่า งานส่วนใหญ่ร้อยละ 99% ที่คนอื่นๆ ส่งมาให้ผมเป็นไฟล์ word, excel ครับ แม้ว่าจะสามารถลง font เดียวกัน เปิดมันด้วย Open Office และสั่ง save เป็นไฟล์เวิร์ดแล้ว ก็ยังไม่ค่อยรุ่ง
เป็นเพราะว่า มีผมคนเดียวมั้ง ที่ลองเอา linux มาใช้แบบ desktop คนเดียว (รันserver นี่ไม่เกี่ยวนะครับไม่นับ) ทำให้ผมเลยอยู่คนเดียว ในโลกแห่ง Microsoft ของป๋า บิลล์
2. ในเว็บ office ยังคงมีระบบเก่าๆ ครับที่ใช้ html area ครับ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ไม่สนับสนุนกับ Firefox (โอ้ววว แม่เจ้า) ใช้ได้แต่ IE (อ่า m$ มันครองโลกแล้วรึไง) เลยปวดหัวครับ ปลุกกระแสการใช้ tiny mce ใน office อีก (จริงๆ ปลุกมานานแล้วครับ อยากให้เลิกใช้ tool ห่วยๆ ซะที)
3. ปัญหาการส่งไฟล์ ครับ เนื่องจากระบบหลักนั้นมันเป็น UTF-8 (เค้าใช้กันทั่วโลกแล้ววว) แต่ไอ้ไฟล์บน windows ที่ได้รับมามักจะเป็น windows-874 ครับ ผลคือต้องมานั่งหาวิธีแก้ไอ้ font ประหลาด ต่างดาวกันอีก (MS มันครองโลกจริงๆแล้วนะเนี่ย)
ซึ่งปัญหาทั้งๆหมด มันจบได้ครับ ถ้าผมทำงานของผมคนเดียว ทำเว็บคนเดียว ไม่ต้องส่งไฟล์เอกสารต่างๆ ของ HR นั่น ปัญหาทุกอย่าง จบ!!!
แต่ในความเป็นจริงแล้วพอมาเจอแบบนี้ ก็ทำให้ผลไปได้ค่อนข้างฝืดครับ ยังคงต้องแวะเข้าใน windows เป็นระยะๆ เห้ออออ นะ
พูดมาทั้งหมด เหมือนว่า มันไม่มีดีเลย แต่จริงๆ แล้วมันมีข้อดีครับ
1.ระบบที่ใช้งาน กิน Resource น้อยตามแบบของ Linux ครับ เวลาเปิดทำงานเหมือนเวลาใช้งานตามปรกติ ก็ใช้แรมไปเพียง 2/3 ของที่ทำงานอยู่บน Windows ครับ อย่างง่ายๆเลย เปิด windows มาไม่ทำไรเลย ไม่ load antivirus อะไรพวกนี้ ก็ใช้แรมอยู่ 200-230 เมกฯ ครับ แต่ Ubuntuกินแค่ 160-180 เท่านั้นเอง ยิ่งพอเปิดใช้งานเยอะๆ แล้วก็เริ่มเห็นส่วนต่างมากขึ้นครับ ดังนั้น ก็คงไม่ต้องนั่ง update เครื่องกันทุกครั้งที่ update OS ครับ
2. ระบบที่เป็น Open source ทั้งหมด มันมีโปรแกรม มีอะไรเยอะมากครับ แค่หาๆ เอามีทุกอย่าง และที่สำคัญ มันฟรี!!! คุณไม่ต้องนั่งเข้า google พิมพ์หาโปรแกรมเถื่อน หรือเสี่ยงชีวติ หา crack หา cd key อะไรเลยครับ อยากได้อะไร ก็หาๆ เอา อีกทั้งใน x windows อย่าง gNome ที่ใช้อยู่ ก็สามารถพิมพ์หาได้ทุกอย่างที่ต้องการครับ เช่น ทีแรกผมต้องการหาโปรแกรมสำหรับใช้งาน upload file งานขึ้น server ก็ลองพิมพ์ หา FTP ครับ ผลคือ
มันมีเป็นร้อยครับ ทั้งโปรแกรมที่เป็น Client และ server โอ้วว มันเยี่ยมจริงๆ
ลองหาโน่นหานี่ ดู อืมม มันมีหมดทุกอย่างจริงๆ เพียงแต่ว่าจะเอามา config แล้วใช้งานง่ายหรือยากอีกเรื่องนึงครับ
3. ระบบการ Update ของมันที่ใช้ apt-get ซึ่งช่วยให้ระบบหลายๆอย่างในการ update ระบบ ทั้ง fix bug, update security นั้นทำได้ง่ายครับ ไม่ต่างจาก M$ update เลยครับ อีกทั้งไม่มี windows genius มากวนใจอีกด้วย โอ้ววว มันยอดมาก
ซึ่งตอนนี้ หากพูดกันจริงๆแล้ว น่าสนใจมากครับ กำลังว่าอยากหา OSX มาลงอีก 555+ แต่ไม่มี Harddisk สำรองข้อมูลสิครับเหอๆ เดี๋ยวพักขึ้นมาไม่มี Harddisk ไว้ใช้งานอีก และคิดว่า ตอนนี้ใน office ผมเองก็มีอย่าง ทีม programer สองสามคน หรือว่า อย่างทีม networks เริ่มสนใจ ubuntu กันเยอะแล้วครับ แต่ยังติดปัญหาไม่ต่างจากผมนั่นล่ะ คิดว่าขอปลุกกระแสต่อดีกว่าเหอๆ คิดว่าอาจจะมีแนวร่วมมากขึ้นครับ ซึ่งหลังจากลงใหม่รอบสองนี้ ก้อเข้าโหมดคนปรกติครับ คือเอา Ubuntu ที่เป็น 32bit มาใช้งาน แล้วก็คิดว่า คงตัดใจกะ beryl แล้วครับ
ปล. เห็นน้องฝึกงานแวะมา comment แว๊บๆ อ่า ก็ขอบคุณค้าบบ ที่แวะมา เหอๆ มีไรก็ msn ปุ๊งปุ่ง มาแล้วกันครับปล2. มีคนแอบทักว่า อันก่อนผมพิมพ์ ubuntu ผิด อิอิ โดนรู้ทันแก้ไปแล้วครับ พอดีเช็ค factor อะไรนิดหน่อยครับเกี่ยวกับ คำที่สะกดผิดครับ เหอๆ แต่เห็นผลล่ะครับ หุหุ

บ๊ายบายฝึกงาน
.........................อะแฮ่มๆๆๆ ฝึกงานเสร๊จแล้วโว๊ย..................


อัพสเปซบ่นเรื่องฝึกงานอยู่หลายรอบ..วันนี้เราจะมาส่งท้ายด้วยเรื่องดีๆของการฝึกงานก็แล้วกันนะ
อย่างแรกเลยคือนี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกดีที่ไม่ดื้อ ยอมไปฝึกงานที่ไกลๆ เพราะตอนแรกที่รู้ว่าต้องไปฝึกงานที่ชิดลมก็กะจะไม่ไปอยู่แล้ว กะจะฝึกที่สภาทนายใกล้ๆที่ทำงานพ่อ ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่าถ้าไม่ยอมไปฝึกคงไม่ได้รู้ไรดีๆอย่างนี้แน่ๆ ต้องขอบคุณพี่จ๋าที่หาที่ฝึกงานให้ แล้วก็ขอบคุณพี่เด่นที่ช่วยฝาก(เขียนได้ใช่ป่ะ?) ไม่งั้นเค้าคงไม่รับมีนแน่ๆเลย แล้วจะกลับไปฝึกตั๋วอีกไม๊นี่อีกเรื่องเพราะวันนั้นฟังเค้าพูดเค้าบอกว่าต่อไปคงจะรับคนมาฝึกงานยากขึ้น จะดูเกรดกะภาษา แค่นี้คุณสมบัติมีนก็ไม่ผ่านซักข้อแล้ว....น่าเสียดาย
ตอนรับเซอร์ทิฟิเคดเค้าถามว่าได้อะไรจากการฝึกงานบ้าง..ตอบไม่ได้แฮะว่าได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม๊ แต่ที่รู้คือการฝึกงานมันทำให้เรารู้ว่าเรายังขาดอะไรมั่ง(สรุปได้ว่าขาดทุกอย่าง) ทำให้รู้ว่าเรายังต้องรู้อะไรเพิ่มและที่สำคัญคือทำให้เราต้องคิดหนักว่าไอ้หนึ่งปีที่เหลือนี่เราจะทำยังไงกับมัน...

บนของที่แจกวันสุดท้าย เราเขียนแค่ Thank You เลยจะบอกให้อ่ะนะว่ามันหมายถึงอะไร

ขอบคุณอินเทิร์นทุกคนที่ช่วยงาน ช่วยทำให้ที่ฝึกงานน่าอยู่ขึ้น แล้วก็ช่วยสร้างสีสันให้ชีวิตฝึกงาน แม้เราจะไม่ค่อยได้พูดไรมาก(?) ก็แค่ปฏิบัติตามคำสั่งพี่น่ะว่าอย่าพูดมากอย่าเล่นมาก
ขอบคุณ พี่เปรม ที่ช่วยงานทุกทีเวลามีปัญหา ขอบคุณสำหรับ คำว่า"ดีแล้วค่ะ" ชอบจังคำนี้ เรียกความมั่นใจได้มากเลยหละ เอ้อแล้วจะบอกอย่างว่า ไอ้ตุ๊กตาที่แจกวันสุดท้ายที่ให้อินเทิร์นกับให้คนอื่นไม่เหมือนกันน่ะ ไม่เกี่ยวกับความเหมาะสมเรื่องเสียงหรอกนะ แค่ว่าไอ้แบบที่แจกคนอื่นมันหมดเลยซื้ออันนี้มาให้อินเทิร์นเท่านั้นเอง...อย่าคิดมากนะพี่
ขอบคุณ พี่แอร์(กี่) เจ้าแม่การถ่ายรูปและโหลดรูป ขอบคุณที่ชวนกลับบ้าน ชวนไปกินข้าว ขอบคุณที่ให้นั่งข้างหน้าต่างตอนไปภูเก็ต รู้สึกค่อนข้างเห็นแก่ตัวแต่คือ ไม่อยากแก้ตัวอ่ะนะ แต่ถ้าเราเมาเครื่องขึ้นมากลัวว่าทุกคนจะลำบากกว่านี้ เลยขออย่างงี้ละกัน แล้วก็ไม่เมาจริงๆด้วย เย้....
ขอบคุณ มุก ที่นอนกะเราตอนไปเที่ยว ขอบคุณที่ร่าเริงแล้วก็ช่วยแกล้งคนอื่นให้ดู หนุกดีนะเนี่ย...
ขอบคุณ โน๊ต สำหรับมุกกวนๆที่ตรงข้ามกะหน้าจ๋อยๆที่มาวันแรกของนาย ขอบคุณที่ช่วยงาน ช่วยให้งานตามคดีช่วงแรกง่ายขึ้นเยอะเลยหละ
ขอบคุณ บี ที่ช่วยเรื่องเกี่ยวกับที่ม. ฝึกงานเราคงจะคุยกะบีน้อยที่สุดอ่ะนะ แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จัก..อย่าเครียดมากนะ ทำงานพี่ออยเสร็จยังเนี่ย..

ขอบคุณอินเทิร์นไปแล้ว..ต่อไปก็ขอบคุณพี่ๆลอว์เยอร์ทั้งหลายที่ช่วยใช้งาน ช่วยสอนงานให้ไอ้เด็กอย่างหนู ถึงแม้จะไม่ได้ร่วมงานกับลอว์เยอร์ทุกคน แต่ทุกคนก็ทำให้รู้ว่า ชีวิตในลอว์เฟิร์มมันเป็นยังไง ซึ่งเป็นอะไรที่นึกภาพให้ตายก็นึกไม่ออกถ้าไม่ได้มาเจอด้วยตัวเอง ถ้าวันนึงหนูอยากเป็นอย่างพวกพี่ๆ หนูคงต้องหัดเร่งสปีดการดำรงชีวิตของหนูเป็นอย่างแรก เหนื่อยไม๊ก็ไม่รู้นะ แต่ดูท่าทางเงินจะดี..ก็โอเค..
ขอบคุณ พี่เด่น มากๆๆๆๆๆ ถ้าไม่ได้พี่ก็คงไม่ได้ฝึกงาน พี่รู้ไม๊ว่าหนูพยายามทำตัวให้ดีที่สุดเท่าที่คนอย่างหนูจะพอทำได้ หนูกลัวพี่จะเสียชื่ออ่ะ(555)จริงนะ แต่ก็ได้ดีที่สุดเท่าที่พี่เห็นน่ะนะ เอาเหอะ ให้รู้ละกันว่าพยายามแล้ว ขอบคุณที่มาส่งหนูในวันที่หนูรู้สึกเหนื่อยมาก เวลาพี่บอกว่า น้องมีนวันนี้พี่กลับเร็วกลับด้วยกันไม๊
โหพี่ รู้ป่ะ มันแบบ..ไชโย...แต่คือหนูก็ต้องรักษาภาพนิดนึงนะพี่ ใจจริงแบบว่าอยากบอกว่า พรุ่งนี้มาส่งอีกน๊าพี่..แต่ก็ เกรงใจอ่ะ
ขอบคุณ พี่หลี ที่คอยให้งานมีนทำบ่อยๆ งานตามคดีพี่นี่ให้มีนทำจนวันสุดท้ายจริงๆ ขอบคุณที่พยายามสอนหนูนะคะ ไม่รู้ว่าพี่รำคาญหนูไม๊ที่ถามบ่อย มีปัญหาบ่อย แต่ก็นั่นแหละคิดว่าดีกว่าทำผิดแล้วไปส่งจริงไม๊? ทำงานถูกบ้างผิดบ้าง ก็ไม่ว่ากันนะพี่ ดูว่าหนูจะคุยกับพี่น้อยมากในช่วงอาทิตย์แรกๆ เพิ่งได้คุยกันอาทิตย์ท้ายๆนี่เอง ตอนแรกหนูยังกลัวๆพี่เลย..แต่ช่วงสามอาทิตย์หลังนี่เพราะได้คุยกับพี่มากขึ้นหรือไงไม่รู้นะ(หรือว่าพี่เห็นว่าหนูจะไปแล้วเลยคุยกะมันซะหน่อย) แต่ก็ทำให้รู้ว่าพี่น่ารักมากๆเลย...อิ๊ๆๆ
พี่ออย ชอบมาก...หน้าใสสุดๆเลยพี่ แค่มาดูพี่เดินไปเดินมาก็เอิ่ม..ใสดีจาง...ชมๆๆจากใจ อยากไปฟังพี่ว่าความจัง แต่คงอดแล้วหละ
พี่พลอย ขอบคุณที่ให้คำปรึกษานะคะ รู้ว่าพี่งานยุ่งหนูยังจะยุ่งกะพี่อีกแต่ทำไงได้อ่ะพี่ ก็พี่หลีเค้าสั่งหนูมาอ้า
พี่หมี พี่เจี๊ยบ ขอบคุณที่เล่นด้วย..ถ้าบางครั้งหนูเล่นมากไปก็ขอโทดนะคะ..

อ๊ะๆๆ เกือบลืม...ขอบคุณพี่ๆชาวธรรมศาสตร์ทุกคน ที่เข้ามาทักทายและทำให้หนูรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ไปติดต่องานและทำให้อะไรๆที่ยากๆกลายเป็นง่ายขึ้น แม้ว่าเราจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขอบคุณจริงๆ มันทำให้หนูเห็นความสำคัญของตราธรรมจักรที่ติดอยู่ตรงหน้าอกและทำให้รู้ว่า ธรรมศาสตร์ของเรายิ่งใหญ่แค่ไหน(อิ๊ๆ ไอบ้าสถาบัน)

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณบริษัทที่ให้โอกาส จะบอกว่าถ้าหนูกลับมาฝึกตั๋วอีก ก็รับหนูด้วยละกันนะคะ นะๆๆๆๆๆ ขอบคุณที่พาไปเที่ยว ดีใจจังที่ได้เห็นทะเลน้ำใสๆ



ไม่รู้ว่าคนอื่นมองเราว่าการฝึกงานครั้งนี้เราเยังไงอ่ะนป็นะ แต่เราว่า ถึงเราจะทำงานช้าบ้าง ผิดบ้าง แต่เราก็รู้สึกว่าทำดีที่สุด และก็รู้สึกว่าจบลงด้วยดี แต่เราว่าสองเดือนมันสั้นไปสำหรับฝึกงาน โดยเฉพาะถ้างานมันต้องทำต่อๆกันอย่างตามคดีถึงจะไม่ได้ใช้สมองมากนัก แต่ก็ใช้การเรียนรู้ เราว่าฝึกสองเดือนมันเหมือนกับไปรู้มาแล้วว่าทำไงมั่ง แต่ยังไม่ทันได้เอาไอ้ที่รู้มามาใช้ก็เลิกฝึกซะแล้ว ยังไงถ้าพี่เปรมทำงานมีนต่อก็สู้ๆแล้วกันพี่ แล้วก้าได้กลับไปฝึกตั๋วอีกคงได้รู้ไรมากกว่านี้ แต่ก็คงอาจถึงตายได้เพราะแค่สองเดือนยังเหนื่อยขนาดนี้แล้วถ้าหกเดือน..โอย..คงต้องคิดมากๆหน่อยล่ะทีนี้

ป.ล. อ่านบล๊อกบนแล้วเนื้อหาคนละเรื่องกับบล๊อกล่างเลยเน๊อะ แต่เอาเป็นว่าบล๊อกนี้เป็นความรู้สกล่าสุดละกัน
ขอบคุณใครๆไปตั้งเยอะ แต่คงไม่มีใครได้เข้ามาอ่าน ดีแล้ว เพราะจะได้เขียนได้อย่างสบายใจหน่อยจิงมะ ไม่งั้นถ้าเค้าเห็นบล๊อกก่อนๆ คงตาย..เอิ๊ก..

บ๊ายบาย...หลังจากนี้เราจะกลับไปเรียนอย่างสบายใจ..และจะจำไว้ว่าชีวิตการเรียนมันมีความสุขแล้วก็สบายแค่ไหน

No comments: